ผู้หญิงร้ายผู้ชายรัก-จริงดิ?

ฉันเคยเปรยกับเพื่อนว่าจะเขียนถึงหนังสือเล่มนี้สักวัน เพื่อนบางคนนิ่วหน้าบอกว่า “เธอไปเสียเวลากับหนังสือพรรค์นั้นทำไม ?” บางคนถึงกับบอกว่า “มันเท่ากับเธอไปให้ค่าหนังสือแบบนั้นนะ” บ้างก็ว่า “มันมีอะไรให้พูดถึงด้วยหรือ?”
**
ไม่แต่เพื่อนๆ ตัวฉันเองก็เผชิญกับความขัดแย้งเช่นนี้เหมือนกัน เราไม่เพียงถูกสอนฝังหัวมาว่าหนังสือนั้นมีสองระดับ คือระดับที่อ่านพอเพลิน อย่าได้ไปตั้งคำถามเชิงคุณค่าทางวรรณกรรมวรรณเวรกับหนังสือเหล่านี้เพราะเขาไม่ได้เขียนขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์นั้น กับหนังสือที่นักเขียนตั้งอกตั้งใจเขียนมาให้เป็นวรรณกรรมขึ้นหิ้ง ให้ตัวหนังสือของตนเป็นเครื่องมือยกระดับจิตวิญญาณ ยกระดับสำนึก ความคิด สติปัญญา ปลุกคนให้ตื่นจากความหลับใหลให้พบกับลำแสงแห่งปัญญา
**
และการเลือกหนังสือสักเล่มมาวิจารณ์นั้น ต้องชั่งน้ำหนักด้วยว่ามีอะไรให้พูดถึงพอที่จะหยิบมาวิจารณ์เป็นเรื่องเป็นราว หรือมีค่าเพียงแค่การ “รีวิว” พอไม่ให้เสียน้ำใจพีอาร์สำนักพิมพ์ ทีนี้พอฉันเกิดอยากจะหยิบฮาวทูผู้ยิ้งผู้หญิงมาเขียนถึง (ดูสิ ฉันเองก็ไม่กล้าใช้คำว่าวิจารณ์ขึ้นมาเสียดื้อๆ) มันจึงเกิดการถกเถียงกันในหัวของฉันว่า เอ๊ะ นี่มันเป็นหนังสือที่ต้องคัดไปอยู่ในหมวด “รีวิว” นี่นา ถ้าเป็นฮาวทูอย่าง ซีเคร็ต ก็ว่าไปอย่าง เพราะเราสามารถพูดถึง impact ของมันที่หนักหน่วงเอาการเมื่อดูจากยอดขายถล่มทลายทั่วโลก แต่ impact ของหนังสือเล่มนี้มันก็แค่งั้นๆ
**
แต่ถึง impact ของมันจะงั้นๆ ฉันก็ไม่สามารถสลัดความคิดของตัวเองออกจากเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ได้ และอย่างน้อยๆ ฉันคิดว่าวิธีคิดเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างหญิง – ชายที่อยู่เบื้องหลังหนังสือเล่มนี้ มันน่าสนใจมากพอที่จะให้เราต้องพูดถึงมันบ้าง แม้ว่าในสายตาของเฟมินิสต์ตัวแม่จะมองว่าประเด็นเกี่ยวกับอาการอยากมีผัวจนตัวสั่นของผู้หญิงนั้นเป็นหัวข้อที่เชยแสนเชยก็ตามที
**