โรคแห่งความตาย: ความป่วยไข้ในโลกชายแท้เป็นใหญ่

คุณตอบว่าคุณอยากหลับใหลบนเครื่องเพศที่เนือยนิ่ง ตรงนั้นที่คุณไม่เคยรู้จัก

คุณบอกว่าคุณอยากลอง อยากร้องไห้ที่นั่น ณ ที่อันจำเพาะแห่งนั้น

เธอยิ้ม เธอถาม: คุณต้องการฉันด้วยหรือเปล่า

คุณตอบ: ใช่ ผมยังไม่รู้จักเลย ผมอยากสอดใส่เข้าไปตรงนั้นด้วย และอย่างรุนแรงเท่าที่ผมคุ้นเคย
เขาว่ากันว่ามันจะขัดขืนเสียยิ่งกว่า ว่ามันเหมือนกำมะหยี่ที่ต้านทานกว่าความว่างเปล่า

เธอบอกว่าเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เธอจะรู้ได้อย่างไร (เน้นเอนโดยผู้เขียนบทความ)

บทสนทนาของมนุษย์นิรนามคู่หนึ่ง (และคู่เดียว) ในนวนิยายขนาดสั้นของมาร์เกอริต ดูราส (Marguerite Duras)
ที่มีชื่อว่า โรคแห่งความตาย (La Maladie de la mort) ไม่เพียงเผยให้เห็น “ความอยาก” ของฝ่ายหนึ่ง และ “ความไม่รู้” (อะไรบางอย่าง) ของทั้งคู่ หากแต่ยังแสดงชัดถึงเพศและรสนิยมทางเพศที่แตกต่างกันของแต่ละฝ่าย “คุณ” นั้น “คุ้นเคย” กับการ “สอดใส่” หากแต่ไม่ใช่ใน “ที่อันจำเพาะแห่งนั้น” ของ “เธอ” ที่เขาไม่เคยรู้จัก ฝ่าย “เธอ” เมื่อต้องพิจารณาเปรียบเทียบระหว่าง “ตรงนั้น” ที่มีกำมะหยี่ กับ “ความว่างเปล่า” ก็ถึงกับต้องกล่าวว่า “จะรู้ได้อย่างไร” ราวกับว่ามีกฎสากลอะไรบางอย่างกำหนดไว้ให้เธอต้องไม่รู้ เพราะไม่เคยสงสัย ไม่เคยแสวงหาคำตอบ หรือกระทั่งไม่มีศักยภาพที่จะทำเช่นนั้นได้

“คุณ” จึงเป็นชายที่ไม่เคยล่วงล้ำเข้าไปในร่างกายของหญิง หากแต่คุ้นเคยกับการทำเช่นนั้นกับ “อย่างอื่น”
ส่วน “เธอ” ก็เป็นหญิงที่ไม่อาจได้สัมผัสความรู้สึกแห่งการเป็นฝ่าย “สอดใส่” ไม่ว่าจะในร่างกายที่เหมือนหรือต่างจากตนเอง ความสัมพันธ์อันเกิดจากการจ้างวานระหว่างคนสองเพศที่ไม่เคยรู้จักกันและไม่น่าจะปรารถนาซึ่งกันและกันนี้ เป็นแกนเรื่องสำคัญของนวนิยายที่นำผู้อ่านไปสำรวจนิยามของความรักและความปรารถนา ท่ามกลางบทบรรยายเนื้อหนังมังสาและฉากร่วม “รัก”

เมื่อมองด้วยกรอบคิดขั้วตรงข้ามชาย-หญิง เห็นได้ไม่ยากว่า โรคแห่งความตาย ท้าทายอุดมการณ์ชายเป็นใหญ่ด้วยเรื่องเล่าได้อย่างทรงพลัง ช่วยแฉภาพพฤติกรรมของชายที่ถือว่าหญิงเป็นวัตถุทางเพศ พร้อมกันนั้นก็สั่นคลอนอำนาจของชายด้วยการทำให้หญิงที่ดูเหมือนไร้อำนาจและเป็นฝ่ายถูกกระทำ กลายเป็นผู้ให้คำนิยามและกำหนด
รูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งคู่ “เธอ” เป็นจุดศูนย์กลางของเรื่อง เป็นความหวังเดียวที่จะทำให้ “คุณ” หาย
หรือตายจาก “โรคแห่งความตาย” ที่เผชิญอยู่ “เธอ” จึงไม่ใช่หญิงที่โหยหาชายมาเติมเต็มช่องว่างในกายของตัวเอง
แต่เป็นผู้ที่จะสามารถเติมเต็มสิ่งที่เขาขาดได้ อย่างไรก็ตาม พร้อมกับที่บทบาทและความสัมพันธ์ทางอำนาจระหว่าง
ขั้วตรงข้ามหญิง-ชายถูกท้าทาย อคติทางเพศภายใต้สมมติฐานของอีกขั้วตรงข้ามหนึ่ง นั่นก็คือรักต่างเพศกับ
รักร่วมเพศ ก็เผยตัวเองออกมา ผ่านการวินิจฉัย “โรคแห่งความตาย”
****