ทวิภพกับความหลงตัวเองของมณีจันทร์

เมื่อมีการพูดถึงวรรณกรรมแนวข้ามภพข้ามชาติ นวนิยายเรื่อง ทวิภพ ของทมยันตี มักเป็นเรื่องแรกๆ ที่คนทั่วไปนึกถึง ทวิภพ ตีพิมพ์รวมเล่มครั้งแรกในปี 2530 หลังจากนั้นมีการพิมพ์ออกมาอีกมากกว่าสิบครั้ง และยังมีการดัดแปลงไปเป็นละครโทรทัศน์และภาพยนตร์อีกหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดคือภาพยนตร์ของสุรพงษ์ พินิจค้า ที่ใช้ชื่อภาษาไทยว่า ทวิภพ เหมือนกับนวนิยายต้นฉบับ แต่มีชื่อภาษาอังกฤษว่า The Siam Renaissance (2547)
**
ทวิภพ เป็นเรื่องราวของมณีจันทร์ สาวสมัยใหม่ที่คล่องแคล่วและเก่งกล้า วันหนึ่งมณีจันทร์ซื้อกระจกมาจากร้านขายของเก่า และค้นพบในภายหลังว่ากระจกบานนั้นสามารถพาเธอย้อนเวลากลับไปในอดีตได้ ทมยันตีทำให้ผู้อ่านเข้าใจว่ามณีจันทร์มีภารกิจอันใหญ่หลวงที่ทำให้เธอต้องเดินทางย้อนกลับไปในอดีตสมัยรัชกาลที่ 5 แม้แต่นักวิจารณ์หลายท่านก็เห็นพ้องเช่นนั้น นัทธนัย ประสานนาม กล่าวเป็นต้นว่า “มณีจันทร์ย้อนเวลากลับไปเพื่อ ‘มีส่วนร่วม’ ในอดีต” กล่าวคือ “เพื่อให้ได้ใช้ความสามารถในการเจรจากับชาวต่างชาติ และการเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่พระยอดเมืองขวาง ผู้ถูกลงโทษทั้งที่มีเจตนาจะรักษาบ้านเมือง”
**
แต่ทั้งนี้ผู้เขียนอยากจะเสนอว่า หากอ่านนวนิยายเรื่องนี้ดีๆ จะพบว่าไม่มีหลักฐานใดๆ ที่แสดงว่ามณีจันทร์ได้เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์หรือได้ช่วยกอบกู้ชาติไทยจากการเอารัดเอาเปรียบจากตะวันตกเลย ดังนั้นหากเราเชื่อว่ามณีจันทร์เดินทางข้ามภพข้ามชาติได้จริง เราคงต้องสรุป ว่าเธอย้อนเวลากลับไปเพียงเพื่อแต่งงานกับคุณหลวงอัครเทพวรากร พระเอกของเรื่องเท่านั้น แต่หากเรากล้าที่จะตั้งคำถามว่ามณีจันทร์ย้อนเวลาได้จริงหรือไม่ เราอาจพบว่า ทวิภพ เป็นเพียงเรื่องราวของผู้หญิงหลงตัวเองคนหนึ่ง ซึ่งวันๆ เอาแต่นั่งจ้องมองเงาตัวเองในกระจกและเพ้อฝันไปต่างๆ นานาโดยไม่ได้เดินทางย้อนยุคย้อนเวลาไปไหนเลย
**