ฮะเร บอลลีวู้ด, บอลลีวู้ด ฮะเร ฮะเร

ออกแขก
อินเดียเป็นประเทศใหญ่มาก เรียกว่าเป็นอนุทวีปก็ได้ มีความแตกต่างหลากหลายทางชาติพันธุ์ ภาษา ความเชื่อ ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม อุตสาหกรรมภาพยนตร์อันเป็นสื่อบันเทิงใหม่ที่นำเข้าจากตะวันตก ได้เริ่มมารองรับอารมณ์สุนทรีย์ของประชาชนในประเทศนี้ช่วงปลายทศวรรษที่ 1930 อินเดียมีภาพยนตร์ท้องถิ่นเพื่อคนท้องถิ่น มีภาพยนตร์ภาษาถิ่นเพื่อคนในวัฒนธรรมย่อย มีภาพยนตร์แห่งชาติเพื่อคนทั้งประเทศดูด้วยกัน และในที่สุดก็มีการผลิตในระดับอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกทางวัฒนธรรมและในฐานะสินค้าระดับโลกด้วย
**
ศูนย์กลางอุตสาหกรรมภาพยนตร์นี้อยู่ที่เมืองมุมไบหรือบอมเบย์ในอดีต ในรัฐมหาราษฎร์ ซึ่งมีความสำคัญในฐานะเป็นเมืองท่าและเป็นศูนย์กลางทางการค้าและการท่องเที่ยว ชื่อบอมเบย์เดิมที่ติดปากชาวตะวันตก ทำให้ภาพยนตร์อินเดียมีตราสินค้าว่า “บอลลีวู้ด” (Bollywood) อันเป็นสำเนียงเรียกขานที่เหมือนเป็นการล้อเลียนเมื่อนำไปเทียบเคียงกับยักษ์ใหญ่ของโลก “ฮอลลีวู้ด” ที่ดูเหมือนจะเป็นมาเฟียตลอดกาลของวงการในการกำหนดมาตรฐานการสร้างภาพยนตร์ การผลิตดาราขวัญใจคนดูรุ่นแล้วรุ่นเล่า และการคว้ารางวัลต่างๆ ในระดับโลก แต่ก็ปรากฏว่ามีหลายครั้งที่งานหนังแนวบอลลีวู้ดกลับปราบชนะยักษ์ใหญ่ได้อย่างราบคาบ โดยเฉพาะล่าสุด (2008) ที่ภาพยนตร์ Slumdog Millionaire (กำกับการแสดงโดยแดนนี่ บอยล์) ครองรางวัลทั้งออสการ์, ลูกโลกทองคำ, สหพันธ์ภาพยนตร์อังกฤษ และรางวัลจากเวทีอื่นๆ เฉือนคู่แข่งยักษ์ใหญ่ขาดกระจุย
**
หนังฮอลลีวู้ดเป็นหนังทุนหนาราคาแพง ต้องจ่ายทั้งผู้กำกับ ดารา ผู้เชี่ยวชาญทุกสาขา แม้กระทั่งนักวิจารณ์ และต้องใช้ทุนในการจ่ายเพิ่มขึ้นทุกปี ในขณะที่บอลลีวู้ดใช้ทุนทุกอย่างต่ำกว่า แต่รายรับมหาศาล ดูจากตัวเลขสถิติปี 2003 ฮอลลีวู้ดผลิตหนัง 700 เรื่อง ขณะที่บอลลีวู้ดผลิต 877 เรื่อง หนึ่งในสามของหนังบอลลีวู้ดปีนั้นเป็นหนังภาษาฮินดี ผู้ชมหนังอินเดียปีนั้นมี 3,600 ล้านคนทั่วโลก มีมากกว่าผู้ชมฮอลลีวู้ด 1,000 ล้านคน พอถึงปี 2006 บอลลีวู้ดผลิตหนัง 900 เรื่อง ปี 2007 ราว 1,200 เรื่อง (ยังไม่ได้สำรวจว่ามีผู้ชมเท่าใด) ปี 2008 นิตยสารไทมส์ สำรวจความต้องการของผู้บริโภคอินเดียกลุ่มคนเมือง พบว่าคนอินเดียแสดงความเป็น “ชาตินิยม” ผ่านการช็อปปิ้งสินค้าที่แม้จะมีตราหรูหราภาษาต่างประเทศ แต่ต้องระบุข้อมูลการผลิตว่า Made in India ปีเดียวกันนั้น ไทมส์ สำรวจรายได้จากอุตสาหกรรมภาพยนตร์ พบว่ามีเงินหมุนเวียนในอินเดีย 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยการอุปถัมภ์ของมิตรรักแฟนหนังต่อผลิตภัณฑ์บอลลีวู้ด รายได้สูงสุดมาจากตั๋วตามโรงหนัง อันดับสองจากการขายดีวีดีและวีซีีดี อันดับสามจากการเช่าหนังและเสพชมทางเคเบิลและออนไลน์ เงิน 4,000 ล้านเหรียญนี้ยังไม่รวมรายได้จากหนังส่งออก สถิติวิกิพีเดียปี 2009 คุยเขื่องว่าแต่ละวันมีชาวอินเดียราว 10 ล้านคนซื้อตั๋วเข้าไปหาความบันเทิงตามโรงหนังทั่วประเทศ ทั้งมีคนอินเดียและต่างชาติที่นิยมหนังอินเดียกระจายอยู่ทั่วโลกอีกราว 20 ล้านคน หนังอินเดียมีฉายทั้งในตะวันออกกลาง แอฟริกา ญี่ปุ่น อเมริกา ยุโรป รัสเซีย แม้แต่หมู่เกาะในแปซิฟิก
**
ในสายตาคนไทยผู้นิยมฮอลลีวู้ด หนังอินเดียอาจถูกมองว่าล้าหลัง เชย ไม่มีสาระ เป็นหนังเพลงแบบเว่อร์ extravaganza musical เดินเรื่องเยิ่นเย้อ พล็อตย่อยรุงรัง เพลงเยอะ เต้นเยอะ จังหวะดนตรีตูมตามน่ารำคาญ คนไทยชอบล้อเลียนเรื่องพระเอกนางเอกวิ่งไล่กันผ่านภูเขาสามลูก เนื้อเรื่องน้ำเน่าบีบน้ำตา ภาษารุงรัง นางเอกอ้วน (!) พระเอกมีหนวดกล้ามโต ผู้ร้ายดูอย่างไรก็ร้าย ตลกไร้เหตุผล มีกลิ่นโรตีเครื่องเทศที่ดูเหมือนจะลอยออกมาให้เกิดอาการคลื่นเหียนเวียนศีรษะ
**
ความเห็นในแง่ลบเหล่านี้หมุนเวียนและถ่ายทอดในหมู่คนไทยสองสามชั่วอายุคนที่ผ่านมา ทั้งทางลายลักษณ์ (สื่อ, นักวิจารณ์) และมุขปาฐะ จนสามารถแสดงอาการล้อเลียนดูถูกออกมาได้ล่วงหน้าแม้จะยังไม่ได้ดูภาพยนตร์เรื่องนั้น เป็นการสื่อความเกลียดชังเชิงอุดมการณ์หรืออคติของไทยสยามต่อ “แขก” ที่สะสมมาในอดีต และถูกยกระดับรุนแรงที่สุดในยุคสงครามโลกครั้งที่สองก่อนจะประกาศตัวเป็นประเทศไทยใหม่ (Thailand) ซึ่งเท่ากับเราถูกสั่งสอนและสั่งสมความเกลียดชังต่อญาติพี่น้องของเราเอง เกลียดชังบรรพบุรุษทางวัฒนธรรมของเราเอง และเกลียดชังครูของเราเอง เพราะต้องไม่ลืมว่าภูมิปัญญาและสติปัญญาเรานั้น ส่วนใหญ่เรียนรู้มาจาก “แขก” นั่นแหละ เราเกิดและเติบโตอยู่ในสังคมที่มีรากเหง้าจากพราหมณ์และพุทธ แต่เราก็ไม่เคยหยุดยั้งที่จะดูถูกแขก ขณะเดียวกันก็ลืมไปว่า อินเดียสามารถสร้างยานอวกาศออกไปสำรวจโลกได้แล้ว โปรแกรมคอมพิวเตอร์จำนวนมากในโลกก็เขียนโดยคนอินเดีย เราเสียอีกที่เป็นผู้รับฝ่ายเดียว รวมทั้งปล้นลิขสิทธิ์ของเขาด้วยในบางครั้ง เราเลือกปฏิบัติต่อคนอินเดียด้วยสุภาษิต “เห็นแขกกับงู ให้ตีแขกก่อนงู” มาจนแม้ทุกวันนี้ จะว่าไป โลกของอคติใบนี้จึงร้อนยิ่งกว่า global warming เสียอีก
******