“แม่ก้อนไขมัน” เรื่องสั้นของกี เดอ โมปาสซองต์ (Guy de Maupassant) มีเรื่องย่ออยู่ว่า
**
ระหว่างสงครามฝรั่งเศส – ปรัสเซีย กองทัพปรัสเซียได้เข้ายึดครองเมืองรูอองของฝรั่งเศส ตัวละครหลักจำนวนสิบคนจึงหาทางออกจากเมืองโดยเดินทางด้วยรถม้าไปยังเมืองอาฟวร์ ตัวละครประกอบด้วยนายและนางลัวโซผู้ประกอบกิจการขายเหล้าองุ่น นายและนางกาเร – ลามาดง เจ้าของโรงปั่นฝ้าย ท่านเคานต์และเคาน์เตสอูแบรต์ เดอ เบรวิลล์แห่งสกุลสูงศักดิ์ แม่ชีสองคน นายกอร์นูเดต์ นักประชาธิปไตย และเอลิซาเบธ รุสเซต์หญิงโสเภณีร่างอ้วนกลมผู้ได้รับสมญานาม “แม่ก้อนไขมัน” แน่นอนว่าบรรยากาศภายในรถม้านั้น ตัวละครต่างๆ ล้วนปฏิบัติต่อแม่ก้อนไขมันด้วยท่าทีเหยียดหยาม การเดินทางเป็นไปอย่างยากลำบากด้วยอากาศหนาวเหน็บและความหิวโหยเนื่องจากไม่มีผู้เดินทางคนใดมีอาหารติดตัวยกเว้นหญิงโสเภณี แม่ก้อนไขมันแสดงน้ำใจต่อเพื่อนร่วมเดินทางด้วยการแบ่งปันอาหารให้ จากนั้นคณะเดินทางได้แวะพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองโต๊ตส์ซึ่งอยู่ภายใต้การยึดครองของทหารปรัสเซีย ภายในโรงแรมจึงมีทหารปรัสเซียอยู่ด้วย ทหารนายหนึ่งไม่ยอมให้คณะเดินทางออกเดินทางต่อจนกว่าเขาจะได้นอนกับแม่ก้อนไขมัน แรกทีเดียวหญิงโสเภณียืนกรานปฏิเสธ แต่ตัวละครอื่นก็หว่านล้อมเธอโดยยกเหตุผลเรื่องการเสียสละเพื่อเพื่อนร่วมชาติจนสุดท้ายแม่ก้อนไขมันตกลงยินยอม เรื่องสั้นนี้จบลงอย่างโหดร้ายเมื่อตัวละครคณะเดินทางแทนที่จะสำนึกในน้ำใจของแม่ก้อนไขมัน กลับแสดงท่าทีรังเกียจเธอที่ไปร่วมหลับนอนกับทหารประเทศศัตรู ซ้ำไม่มีใครแบ่งอาหารที่กักตุนจากโรงแรมให้เธอเลยระหว่างการเดินทางที่ดำเนินต่อไป
**
การมองโลกในแง่ร้ายเป็นลักษณะเด่นในงานของเขียนโมปาสซองต์ นักวิจารณ์ที่ศึกษานักประพันธ์ผู้นี้มักย้ำถึงลักษณะดังกล่าวอยู่เสมอ ตำราวรรณคดีฝรั่งเศสเล่มหนึ่งยืนยันว่าโมปาสซองต์โจมตีทุกอย่างที่เป็นความหวังในชีวิตมนุษย์ เขาปฏิเสธความเชื่อเรื่องลิขิตสวรรค์โดยถือว่าพระเจ้ามืดบอดต่อสิ่งที่พระองค์กระทำ เขาวิพากษ์ศาสนาว่าเป็นสิ่งลวงโลก นอกจากนี้ มนุษย์หาใช่สัตว์ที่สูงส่งกว่าสัตว์ประเภทอื่น ความก้าวหน้าเป็นเพียงเรื่องชั่วครู่ชั่วยาม มิตรภาพคือเรื่องโกหกเพราะโมปาสซองต์เชื่อว่ามนุษย์ไม่อาจเข้าถึงกัน และแท้จริงแล้วเป็นสัตว์ที่โดนสาปให้อยู่โดยสันโดษ นพพร ประชากุล ก็เคยกล่าวถึงงานของโมปาสซองต์ว่า
ครั้นมาถึงผลงานของกี เดอ โมปาสซองต์ ผู้เป็นศิษย์เอกของโฟลแบรต์ และเป็นนักเขียนฝรั่งเศสที่มีผู้นิยมมากที่สุดในโลกก็ว่าได้นั้น วรรณกรรมสัจนิยมจะมุ่งเจาะลึกลงไปในธรรมชาติของมนุษย์ตามที่แสดงออกภายใต้เงื่อนไขสิ่งแวดล้อมต่างๆ ดังที่นักอ่านทั่วโลกต่างชื่นชอบภาพชีวิตของผู้คนในสังคมของศตวรรษที่ 19 ที่ว่ากันว่าโมปาสซองต์นำมาตีแผ่ให้เห็นธาตุแท้ในซอกมุมอันอับมืดอย่างถึงแก่น และจัดฉากให้เป็นมหรสพได้อย่างน่าสะเทือนใจ
“แม่ก้อนไขมัน” เป็นตัวอย่างอันดีที่แสดงชีวทัศน์แบบมองโลกในแง่ร้ายของโมปาสซองต์ เห็นได้ชัดว่าผู้ประพันธ์วาดภาพมนุษย์ไว้ห่างไกลกับคำว่า “สัตว์ประเสริฐ” นัก นพพรกล่าวได้ดีว่า
แม่ก้อนไขมัน นั้นถือกันเลยทีเดียวว่าเป็นผลงานชิ้นเอกที่ส่งให้นักเขียนผู้นี้มีชื่อเสียงโด่งดัง ด้วยว่านอกเหนือไปจากรสชาติอันชวนสะใจในลีลาเสียดสีประชดประชันอย่างไม่อั้นของโมปาสซองต์แล้ว ใครเลยจะสามารถลืมเลือนภาพของหญิงโสเภณีเจ้าเสน่ห์ร่างอวบท้วม ผู้พยายามสงวนศักดิ์ศรีในท่ามกลางความเห็นแก่ตัว เสแสร้ง ตลบตะแลงของเหล่ากระฎุมพีเพื่อนร่วมชาติซึ่งร้ายกาจเสียยิ่งกว่าข้าศึก
ในบทความนี้ ผมขอเสนอการตีความเรื่องสั้น “แม่ก้อนไขมัน” ประเด็นหลักของบทความถือได้ว่าเป็นการสานต่อทัศนะที่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่มีต่องานเขียนของโมปาสซองต์ อย่างไรก็ดี ผมพบว่าในการที่เรื่องสั้นของโมปาสซองต์ “ตีแผ่ให้เห็นธาตุแท้” ของมนุษย์นั้น ยังมี “ซอกมุมอันอับมืด” บางประการที่น่าสนใจ
**
ผมขอเริ่มด้วยข้อเสนอว่าเราอาจตีความได้ว่าหญิงโสเภณีตัวละครเอกของเรื่องมีสถานะเสมือนเป็นแม่ของตัวละครคณะเดินทางทั้งเก้า
****