ถ้าหากว่า อ่าน เล่มนี้จะไปถึงมือผู้อ่านช้าอย่างไม่น่าให้อภัย โปรดรู้ว่ามันเป็นฝีมือของฉันเองที่ส่งต้นฉบับช้าไปถึง…ถึง…ไม่บอกดีกว่าว่าฉันช้าไปกี่วัน เอาเป็นว่ามันช้ามากเสียจนทุกครั้งที่ฉันเช็คอีเมล ฉันต้องหลับตาพลางลุ้นพลางภาวนาว่าอาจมีอีเมลจาก บอกอ. เขียนมาบอกว่า “ถ้าขืนส่งต้นฉบับช้าขนาดนี้ อย่าเขียนเลยก็แล้วกัน”
แรกสุดฉันตั้งใจจะหยิบนวนิยายโรมานซ์ร่วมสมัยของนักเขียนหญิงคนหนึ่งที่ฉันเคยชอบผลงานของเธอเมื่อสักสิบปีที่แล้ว และเฝ้ารอว่าเมื่อไหร่เธอจะมีงานใหม่ออกมา แต่เมื่อผลงานเล่มใหม่ของเธอมาอยู่ในมือ ฉันก็ต้องเปลี่ยนใจ เพราะเรื่องราวที่เธอเขียนมันยังเป็นเรื่องเดียวกับที่เธอเคยเขียนเมื่อ 10 ปีที่แล้วนั่นแหละ เพียงเปลี่ยนชื่อตัวละคร (อาชีพตัวละครยังไม่เปลี่ยนด้วยซ้ำ) เพิ่มความทันสมัยให้นางเอกอีกนิดด้วยการให้เป็นหญิงสาวหน้าตาดี ทำงานเก่ง และเพิ่งจะหย่ากับสามี เธอชอบเข้าไปบริหารเสน่ห์วับๆ แวมๆ ในโปรแกรมแชททางอินเตอร์เน็ต หรือให้นางรองเป็นสาวน้อยที่เคยหลงระเริงกับหนุ่มเลวๆ คนหนึ่งที่เธอเคยคิดว่าเป็นรักแท้
มันคงเป็นนิยายที่ทันสมัยและร่วมสมัยขึ้นมาอีกนิดหน่อยเมื่อเทียบกับวรรณกรรมประเภทเดียวกัน ที่ยังชอบจะเห็นนางเอกผุดผ่องและหยิ่งทะนง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่มีอะไรโดดเด่นพอที่จะให้พูดถึง เพราะเรื่องทั้งหมดถูกสร้างขึ้นมาเพียงเพื่อจะให้ทั้งนางเอกและนางรองได้เจอผู้ชายที่เห็นในคุณค่าของพวกเธอ แม้จะขึ้นต้นด้วยการหย่า แต่มันก็ลงท้ายด้วยการแต่งงานตามสูตร อ้อ แถมอีกนิดว่านางรองของนิยายโรมานซ์ไทยก็มีพัฒนาการเหมือนกัน เรื่องนี้เขาให้เธอเคยมีรักในวัยเรียนที่เร่าร้อนตามวัย แต่ช้าก่อน ฉากรักของเธอกับหวานใจวัยหนุ่มนั้นมีทุกอย่างทุกท่า และบอกไว้อย่างมีนัยสำคัญว่า “ลิ้น” เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการร่วมรัก ร้อนเร่ากันปานฉะนั้น นางรองของเราไม่เคยเสียตัว เพราะเธอยอมคนรักได้ทุกอย่างยกเว้นการสอดใส่!
โอ้ นี่เลย กระทรวงศึกษาธิการเอาไปบรรจุไว้ในหลักสูตรเพศศึกษาด่วน เราทำอะไรกับคนรักได้ทุกอย่าง ดูด ดม เลีย จะถึงจุดสุดยอดกี่ครั้งก็ได้ ขออย่างเดียว อย่าสอดใส่ ทำได้ดังนี้ ศักดิ์ศรี พรหมจรรย์ และพระเอกตัวจริงที่รอเราอยู่ในอนาคตจะเป็นของเราอย่างไม่ต้องสงสัย หากว่าพัฒนาการตัวละครฟากฝั่งนางเอกของนิยายไทยเป็นไปในเส้นทางนี้ ฉันพนันได้เลยว่าอีกไม่เกินสิบปี เราจะมีนางเอกที่เปรี้ยวสุดๆ มีเซ็กส์กับผู้ชายนับคนไม่ถ้วน แต่ก็ยังรักษาพรหมจรรย์เอาไว้ได้ เพราะเธออนุญาตให้เข้าทางประตูหลังเท่านั้น
เอ…หรือฉันจะหยิบงานเขียนสไตล์นิยายเกาหลีที่กำลังฮ็อตฮิตมาเขียนถึงบ้าง ลองหยิบมาหนึ่งเล่ม สุดยอด! ฉากแรกก็เป็นการได้เสียกันระหว่างนางเอกกับพระเอกเสียแล้ว อ่านไปอ่านมา กลับหน้าอ่าน กลับหลังอ่าน ก็ไม่มีอะไร นอกจากเป็นโรมานซ์อีกประเภทหนึ่งที่อนุญาตให้มีฉากเลิฟซีนโจ่งแจ้งแทงทะลุ โดยเฉพาะฉากเข้าพระเข้านางนั้นร้อนฉ่า มีการบอกให้คนอ่านรู้ “ไซส์” มหึมาของพระเอกที่ทำเอานางเอกแทบกระโจนลงจากเตียงด้วยความตกใจ แต่สุดท้ายก็ซี้ดซ้าด ซาบซ่านพลันตระหนักว่า ยิ่งใหญ่ ยิ่งดี (ฮ่าๆ อยากรู้ล่ะสิว่ามันเป็นนิยายเรื่องอะไร) มีตัวอิจฉาคอยกลั่นแกล้งพองาม มีฉากหักเหลี่ยมโหดแบบเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ซักนิดหน่อย อวสานอีก
ปล. ที่บอกว่าเปิดหน้าแรกก็เป็นฉากรักของพระเอกกับนางเอกนั้น ที่จริงเป็นคลิปฉาวที่โดนกลั่นแกล้งจากฝ่ายตรงกันข้าม เป็นแค่การจัดฉาก หาได้เกิดการร่วมเพศอย่างแท้จริงไม่ บิงโก! นางเอกเราไปได้เสียกับพระเอกจริงๆ ก็ตอนวันแต่งงานนั่นแหละ ทำเป็นตกใจไป
เปลี่ยนมาดูนิยายที่ดูเป็นปัญญาชนสักนิดบ้างดีกว่า ว่าแล้วหยิบนิยายเรื่อง ระบำเมถุน ของ อุทิศ เหมะมูล ฉันยอมรับว่ามันเป็นนิยายร่วมสมัยที่ดีที่สุดเล่มหนึ่งเท่าที่จะหาได้ในท้องตลาดวรรณกรรมไทยในปัจจุบัน อดไม่ได้ที่จะเอาเปรียบเทียบกับ เซี่ยงไฮ้เบบี้ และฉันคิดว่านี่เป็น เซี่ยงไฮ้เบบี้ ฉบับพากย์ไทย ในบริบทแบบไทยๆ ได้เลย ฉันชอบที่อุทิศเล่นกับอัตลักษณ์ของตัวละครเอกที่เป็นชายหนุ่มมาจากชนบท เข้ามาเรียนหนังสือในเมือง กลายเป็นคนเมือง ไม่ใช่คนเมืองแบบดาษดื่นเสียด้วย แต่เป็น city – indy/artist – boy อ่านหนังสือยากๆ ฟังเพลง (ไม่สามารถใส่คำคุณศัพท์ลงไปในนี้ได้เพราะฉันไม่รู้จักเพลงเหล่านั้นเลย) ดูหนังอาร์ต (ที่ฉันก็ไม่เคยดู) อุทิศเล่นกับทั้งประเด็นโฮโมเซ็กช่วล ความแปลกแยกกับเพศสภาพของตัวเอง ความแปลกแยกกับรากเหง้า และทั้งไม่อาจกลมกลืนตัวเองได้อย่างราบรื่นกับสังคมเมือง ตัวเอกของเรื่องนี้คือชนชั้นกลางที่เพิ่งจะผุดขึ้นมาในสังคมไทยไม่เกิน 2 ทศวรรษที่ผ่านมา และยังไม่สามารถ locate ตัวเองลงในที่ไหนได้เลยในสังคมไทย
จะให้ออกความเห็นเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ก็คงต้องบอกว่า ดี ดี และดี อย่างน้อยก็เป็นรสชาติใหม่ๆ สีสันใหม่ๆ และเราควรจะมีนิยายอย่างนี้ออกมาเยอะๆ แต่ฉันก็ไม่เลือกที่จะเขียนถึง เพราะมันไม่สนุก มีบางบทที่อ่านสนุก และเป็นเรื่องสั้นที่ดีได้ด้วยตัวของมันเอง แต่โดยรวมทั้งเล่ม มันไม่ entertaining ซึ่งไม่ใช่ความผิดของนิยาย เพราะเขาคงไม่ได้ตั้งใจจะเขียนมาเพื่อสร้างความบันเทิง สำคัญกว่านั้น ฉันยังไม่อาจทำความเข้าใจหรือแม้แต่จะรู้จักกับตัวละครได้ ชีวิตคนหนุ่มสาววงการศิลปะ โฆษณา หนังอาร์ต เพลง และภาวะ lost ของพวกเขา ฉันคงต้องเว้นไว้ให้คนที่เข้าใจเรื่องราวแบบนั้นมาเขียนถึงจะดีกว่า
แล้วฉันเลือกหนังสือเล่มไหน?
นึกภาพฉันกระมิดกระเมี้ยน ค่อยๆ ดึงหนังสือเล่มเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋า หนีบไว้กับหน้าอก แล้วบรรจงวางลงบนโต๊ะ ค่อยๆ เผยให้เห็นชื่อหนังสือและหน้าปก ชื่อคนเขียนและสำนักพิมพ์
ก้อนเนื้อ miscarry by LaDy nOvE โดยสำนักพิมพ์ฉลองบุญ คำโปรยที่หน้าปกเขียนว่า เรื่องราวที่ผู้หญิงด้วยกันต้องเรียนรู้ ผู้ชายต้องรีบหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่าน ปกเป็นรูปเด็กขดเป็นก้อน เหมือนภาพอัลตราซาวนด์คนท้อง (แหวะ) ตอกย้ำความเป็น “ก้อนเนื้อ”
สารภาพตามตรงว่า ฉันเป็นแฟนหนังสือประเภทนี้ล่ะ ประเภทเปิดใจสาวไซด์ไลน์, คำสารภาพของผู้หญิงที่ทำศัลยกรรมครั้งแล้วครั้งเล่า, บันทึกลับเมียหลวง, ไดอารี่เมียน้อย, เมื่อสามีฉันเป็นเกย์ ฯลฯ ใครชอบอ่านเหมือนฉันบ้างยกมือขึ้น!