ฉันคิดอยู่นานมากว่า สมควรแล้วหรือที่จะหยิบหนังสือ เดอะซีเคร็ท มาวิจารณ์ ด้วยเหตุผลง่ายที่สุดว่า “ไม่มีใครเขาวิจารณ์หนังสือประเภทฮาวทูกันหรอก” หรือหากจะวิจารณ์ มันก็ต้องวิจารณ์โดยคิดว่ามันเป็น “ฮาวทู” แล้วเอาไปวางไว้ในระนาบเดียวกับหนังสือฮาวทูทั้งหลาย ฉันอาจจะวิจารณ์ว่าวิธีการที่สอนในหนังสือเล่มนี้ใช้งานไม่ได้จริง ไม่น่าเชื่อถือเมื่อเทียบกับฮาวทูประเภทเดียวกัน ฯลฯ (พลันสงสัยขึ้นมาว่า ใครกันที่อ่านหนังสือฮาวทู และพวกเขาเชื่อและทำตามสิ่งที่หนังสือฮาวทูเหล่านั้นสอนจริงๆ หรือ ตั้งแต่ฮาวทูแต่งหน้า ฮาวทูเตรียมตัวสัมภาษณ์งาน ฮาวทูโยคะ ฮาวทูผอม ฮาวทูพิชิตเจ้านายและหักหลังเพื่อนร่วมงานอย่างแนบเนียน ฮาวทูสอนลูกให้รวย ฮาวทูปั้นลูกเป็นอัจฉริยะ ฮาวทูกินอาหารฝรั่ง ฮาวทูเดทครั้งแรกและให้ผู้ชายขอเดทอีกและขอแต่งงานในที่สุด ฯลฯ พูดมาสิ ชื่อหนังสือฮาวทูมันมีอีกหลายล้านฮาวทู แต่คงไม่รวม How to travel with salmon ของ Umberto Eco หรอกนะ)
ถ้าอย่างนั้นฉันจะวิจารณ์ เดอะซีเคร็ท ในฐานะที่มันเป็นอะไร เป็นวรรณกรรม? เป็นสิ่งสะท้อนกิเลสตัณหาของมนุษย์ในบริโภคนิยมสมัย? เป็นหนังสือธรรมะ? หรือในฐานะที่เป็นหนังสือขายดี (เล่มที่ฉันถืออยู่เป็นฉบับภาษาไทยพิมพ์ครั้งที่ 11) ระดับโลก(อเมริกัน)? ฉันน่าจะปล่อยให้ เดอะซีเคร็ท ลอยนวลอยู่ในแผงหนังสือเช่นเดียวกับหนังสือฮาวทูอีกหลายล้านปกบนแผงฯ ในวันนี้ ให้คนอยากรู้ได้ซื้อไปอ่าน ให้คนอ่านได้ใช้วิจารณญาณว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ให้คนเอาไปพูดจาซุบซิบกันถึงปาฏิหาริย์ว่ามีจริงหรือไม่จริง ให้คนไปเถียงกันเอาเองว่ามันเป็นหนังสือลวงโลกหรือหนังสือธรรมะ หากไม่มีคำนิยมจากบุคคลชั้นนำหลายคนที่ออกมาสรรเสริญคุณงามความดีของหนังสือเล่มนี้ให้เป็นมากกว่าฮาวทู นั่นคือ ยกระดับให้มันเป็นหนังสือที่มีมิติทาง “จิตวิญญาณ” มีมิติในการนำเสนอปรัชญาสากลของจักรวาลที่พระพุทธเจ้าเองก็ค้นพบมานานนักหนา และไม่แปลกแยกกับพุทธศาสนาที่เรานับถือกันแม้แต่น้อย และหนึ่งในคนที่ออกมายืนยันเรื่องนี้คือ ว.วชิรเมธี ซึ่งเป็นพระระดับ “เซเลบฯ” ที่ฉันเชื่อว่า เมื่อท่านพูด ก็พร้อมจะมีคนจำนวนมากรับฟังอย่างไม่ถกเถียง (อันนี้คงไม่ใช่ความผิดของผู้พูด แต่เป็นความผิดของผู้ฟัง แต่เรามีแนวโน้มจะเชื่อในสิ่งที่ครูพูด นักปราชญ์พูด ผู้รู้พูด อยู่เต็มรักแล้วนี่นา)
ในหนังสือ The secret ซึ่งกล่าวถึงความลับที่จะนำไปสู่ความสุขและความสำเร็จรูปแบบต่างๆ นั้น มีเนื้อหาหลายส่วนที่สอดคล้องกับพุทธธรรมในพุทธศาสนา หากอ่านอย่างพิเคราะห์จะพบว่า หลักการบางอย่างนั้นมีความเป็นสากล เช่น “หากเราเปลี่ยนความคิด เราก็จะสามารถเปลี่ยนชีวิตได้” ซึ่งสอดคล้องกับพุทธวจนะที่ว่า “หากเราเปลี่ยนวิธีคิดให้เป็นสัมมาทิฐิได้ ชีวิตก็จะดำเนินเข้าสู่เส้นทางแห่งความสุขและความสำเร็จ” ได้อย่างง่ายดาย…หวังว่าทุกคนที่อ่าน The secret อย่างพินิจ จะค้นพบความลับแห่งชีวิตอันได้แก่ความสุขและความสำเร็จที่พึงประสงค์โดยทั่วกัน
พูดง่ายๆ สั้นๆ ว่า งานนี้ฉันจะมาทะเลาะกับพระ ในแง่ที่ท่านช่างไปตกลงปลงใจเขียนคำนิยมให้กับหนังสือที่ไม่น่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา ให้มันกลายเป็นหนังสือที่ดูดีมีค่า ดูเป็นหนังสือธรรมะแฝงปรัชญา ท่านขา ทำแบบนี้มันจะชี้ให้คนเขาไขว้เขวกันง่ายๆ ฉันเองไม่มีความรู้เรื่องธรรมะสักกระผีก จะไม่เถียงกับท่านในเรื่องทางธรรม แต่จะมาชี้ให้เห็นว่า หนังสือ เดอะซีเคร็ท นั้นมันก็แค่ “แอมเวย์ทางจิตวิญญาณ” ฉันพลิกดูทุกหน้า กลับหัวอ่านก็แล้ว กลับหางอ่านก็แล้ว ถ่างระหว่างบรรทัดดูก็แล้ว ไม่ได้พบอะไรที่มันลึกซึ้งไปกว่าผลิตภัณฑ์ขายความฝันทางตรงเหมือนที่เพื่อนอีชั้นขายมิสทีน ขายแอมเวย์ ขายนูทริไลฟ์เลยสักนิด ซึ่งโดยตัวของมันเองไม่มีอะไรผิด โลกเสรีแบบนี้ใครใคร่ค้าค้า ใคร่ขายขาย ใครใคร่เชื่อเชื่อ เราไม่ว่ากัน แต่อย่ามายกให้มันต้องกลายเป็นคัมภีร์ซ่อนหลักคิดลึกซึ้งวุ่นวาย