เสียเลือดเสียเนื้อมิใช่เบา

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2553 อากาศร้อนระเบิดจนต้นพริกสีม่วงในกระถางทนพิษแดดไม่ไหว เฉาตายไปเสียดื้อๆ พร้อมกันสองต้น น่าแปลกว่าทำไมอีกสามต้นที่วางเรียงอยู่ด้วยกันถึงยังไม่ตาย แค่ดูป่วยและกะปลกกะเปลี้ย เรื่องแบบนี้ข้าพเจ้าคิดหาเหตุผลไม่ได้จริงๆ แต่อยู่ๆ วันนี้เมฆฝนก็ตั้งเค้าแต่เช้ามืด อุณหภูมิลดต่ำอย่างรู้สึกได้ทั่วผิวหนังกำพร้า ข่าวว่าวันสองวันนี้จะเกิดพายุฤดูร้อน ไม่ทันไรเสียงเม็ดฝนตกกระทบหลังคาก็ดังเตือนมาแต่ไกล แล้วห่าฝนก็ตกถล่มทันทีทันใดราวกับกลัวกรมอุตุฯ จะเสียหน้า
**
“ดี…ตกมาชะเลือด” คนคุ้นเคยคนหนึ่งรำพึงขึ้นมาลอยๆ แต่ไม่วายแฝงสำเนียงเดียดฉันท์ในน้ำเสียง
“รู้มั้ย, เค้าว่าตอนนี้เลือดหมูกำลังขาดตลาด” คนรู้จักอีกคนหนึ่งอัพเดตสถานการณ์ตลาดสดโดยไม่มีใครถาม
“เสียดายเลือด บริจาคได้กุศล” คำเปรยสุดคลาสสิคของคนกรุงเทพฯ ที่ทั้งชีวิตคิดแต่เรื่องบุญกุศลและคุณงามความดี
“แม่งมันเอาอะไรคิดกันวะ ไอเดียสถุลชิบหาย เลือดคนหรือเลือดสัตว์กันแน่ ไอ้พวกสารเลว โง่ไร้สมอง!”
**
คนที่ข้าพเจ้าไม่รู้จักนับไม่ถ้วนต่างวิพากษ์วิจารณ์เหตุบ้านการเมืองอย่างเฉลียวฉลาด มีสมองกันยกใหญ่ มันสมองไหลเยิ้มเจิ่งนองไปทั่วเวทีแสดงความคิดเห็น คะเนดูแล้วน่าจะมีปริมาณมากกว่าเลือดที่กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงร่วมกันเจาะบริจาคแล้วเอาไปสาดที่หน้าทำเนียบรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ และบ้านนายกฯ ด้วยซ้ำ
**
ทำไมต้องเป็นเลือด, ทำไมต้องเอาไปสาด, ทำไปทำไม, ทำแล้วได้อะไรขึ้นมา, ไม่มีอย่างอื่น จะทำแล้วหรือ ฯลฯ คำถามและคำด่าทอเกี่ยวกับยุทธโลหิตครั้งนี้ประดังพรั่งพรูเหมือนเลือดที่พุ่งทะลักออกจากบาดแผล
**
จะอย่างไรก็ตามแต่ ต้องยอมรับว่าไอเดียสาดเลือดที่เลือดไม่สาดของ ‘นาฏกรรมการเมือง’ ครั้งนี้แรง ระห่ำ และเรียกความสนใจได้อย่างสะท้านสะเทือนเลือนลั่น ทั้งความสนใจจะตั้งคำถามด้วยความพิศวง สนใจจะเยาะเย้ยถากถางด้วยความชิงชังรังเกียจ หรือสนใจจะแสดงความผิดหวังในแง่ยุทธศาสตร์การสู้รบทางอุดมการณ์ ถ้ามองเฉพาะในเชิงกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ก็ต้องถือว่าประสบความสำเร็จทะลุเป้าเป็น Talk of the World สมประสงค์ ทุกฝ่ายที่เกาะติดสถานการณ์หันมาหมกมุ่นเรื่องเลือดกันในมิติใหม่ หลังจากที่ผ่านมาประโคมโหมความหวาดหวั่นว่าจะเกิดการเสียเลือดเสียเนื้อซ้ำๆ ซากๆ เป็นนกแก้วนกขุนทองกันทุกนาที ยังกับว่าการพูดย้ำแต่ละครั้งนอกจากจะเสริมสง่าราศีให้ดูเป็นคนดีมีคุณธรรมจริยธรรมแล้ว ยังสามารถสะสมคะแนนเอาไปใช้ขอพระราชทานเพลิงศพตัวเองล่วงหน้าเป็นกรณีพิเศษยังไงยังงั้น
******