เมื่อเห็นนาม “อุษณา เพลิงธรรม” วันดารู้สึกเหมือนจะเห็นหน้าพวกผู้ชายพากันอมยิ้มก่อนอ่าน..แล้วเลยคิดไปถึง จัน ดารา ตัวเอกในนวนิยายที่ได้สร้างเป็นภาพยนตร์ เธอเองก็คล้ายจะได้ผ่านตา แต่ก็ชักเลือนเรื่องราวไปเสียแล้ว กระนั้นชื่อ จัน ดารา ก็ยังอยู่ในความทรงจำ และเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ วันดาถึงกับเหม่อมองไปข้างหน้า ชื่อตัวละครในหนังสือบางเรื่องที่เมื่อถูกนำไปแสดงเป็นหนังเป็นละคร แม้จะทำให้คนอ่านจดจำพวกเขาได้แม่นยำมากขึ้น แต่บุคลิกรูปร่างหน้าตากลับแผกไปจากในจินตนาการ ที่ตอนอ่านนั้นมักจะมีภาพของตัวละครปรากฏตามแต่ใจคิดใฝ่หา และด้วยเรื่องเพียงแค่นี้เธอรู้สึกออกจะขัดอกขัดใจ
สายลมโชยความหอมเย็นเข้ามาในศาลาริมสระ วันดามองดูหนังสือรวมเรื่องสั้น 2 เล่มของผู้เขียนคนเดียวกันที่เลือกหยิบออกมา เล่มแรกชื่อ ช่อประยงค์ เป็นหนังสือปกแข็งสีแดง มีร่องรอยอาการปริขาดถูกซ่อมแซมไว้หลายแห่ง ส่วนปกหุ้มที่คงเคยมี ไม่มีแล้ว เจ้าของเอากระดาษสีน้ำตาลห่อปกไว้แทน เปิดหาราคาและข้อมูลการพิมพ์ครั้งแรกของเรื่องสั้นหามีไม่ หนังสือเล่มนี้น่าจะถูกซื้อมาในฐานะหนังสือเก่า เจ้าของเขียนวันเวลาที่ได้ครอบครองว่าเป็นวันที่ 24/11/07 ราคา 4 บาท อีกเล่มเป็นปกอ่อนอายุน้อยกว่าเล่มแรก ชื่อ เพียงประคิ่นแหล่งหล้า บารนี ปกติ วันดาจะอ่านเรื่องสั้นจบเรื่องหนึ่งแล้วหยุดพักไปทำอย่างอื่นก่อนกลับมาอ่านต่อ เพราะคิดว่าการอ่านเรื่องสั้นหรือบทกวีนั้น ไม่น่าจะตะลุยรวดเดียวเหมือนอ่านนวนิยาย ดังนั้นนอกจากจะค่อยๆทยอยอ่านแล้ว หากพบเรื่องที่สะดุดใจเธอก็หยุด ซึ่งอาจจะตลอดทั้งวัน หรือหลายวันโดยไม่ได้กลับมาอ่านเรื่องอื่นต่อ เพราะรู้สึกว่าเรื่องราวที่ถูกบอกเล่ามานั้น กำลังต้องการการย่อยสักระยะ ก่อนจะมีเรื่องใหม่เข้ามาทับเทิน
เรื่องแรกในเล่ม ช่อประยงค์ ที่เพิ่งอ่านจบ ชื่อ “หล่อนไปพักผ่อน” หนังสือไม่ได้ระบุปี พ.ศ. ที่พิมพ์ครั้งแรกไว้ มีแต่ปีที่รวมเล่ม จากศาลาที่วันดานั่งอ่าน เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นดอกพุดซ้อนบานพราวขาวเต็มต้นอยู่อีกฟากหนึ่งของสระน้ำ และเมื่อลมโยกไหว ดอกโมกที่อยู่ฝั่งศาลาก็หล่นสู่ทั้งผืนดินผืนน้ำ ทำให้ทางเดินริมสระถูกโรยด้วยกลีบดอกไม้จริงๆ หาใช่เป็นเพียงคำบรรยายที่ไพเราะของนักประพันธ์เท่านั้น อีกทั้งน้ำในสระที่มีดอกโมกขาวกระจายอยู่เต็ม ก็ทำให้คนมองละเมอไปว่าน่าจะโผลงไปเล่นน้ำให้เหมือนนางกินรี..โดยทำมองไม่เห็นสีขุ่นๆ ของน้ำไปเสีย