หนังสือเล่มนี้วันดาขอยืมมาจากเพื่อนใกล้ชิดที่บ้านอยู่ห่างกันประมาณ 2 ก้าว ความหนา 252 หน้า ราคา 1 บาท ระบุนาม “พลับพลึง” เป็นเจ้าของ แต่ไม่ได้บอกปี พ.ศ. ที่จัดพิมพ์
**
ดำรงประเทศ เป็นนิยายที่ “เวทางค์” นำความเดิมจากวรรณคดีโบราณมาเป็นโครงเรื่อง และได้แสดงทัศนะเกี่ยวกับการครองเมืองไว้อย่างหนักแน่นตลอดทั้ง 10 ตอน คือ การสงคราม, กษัตราธิราช, การอบรม, ธาตุของคนหรือของชาติ, ความรัก, การปกครอง, เมืองปิตุราชและมาตุภูมิ, ความสวาท, รัฐประสาสโนบาย, และ สาสนคุณ
**
ชนบางชาติเอ่ยทักทายกันด้วยคำต่างๆ กันว่า
“เป็นไง”
“สวัสดี”
“สะบายดี”
“วันนี้อากาศดีนะ”
“กินข้าวแล้วหรือยัง”
“ไปไหนมา”
“วันนี้แกงอะไร”
“ทำอะไรอยู่”
“สบายดีหรือ ฯลฯ
แต่ปีนี้แทบทุกชนชาติคิดทักทายกันอยู่ในใจอย่างหวาดระแวงว่า
“คุณเป็นหวัดสองพันเก้าหรือเปล่า” แล้วก็คิดต่อว่า…ฉลามมันจะกัดคนอื่น ไม่กัดเราหรอกน่า
**
หนังสือเรื่อง ดำรงประเทศ รูปร่างหน้าตาสวยงามมีสี่สี แต่เมื่อพลิกดูจึงรู้ว่าเป็นฉบับซีร็อกซ์ทั้งเล่ม แสดงว่าเจ้าของให้ความสนใจหนังสือเล่มนี้จริงๆ
**
วันดาไม่ได้เริ่มอ่านเนื้อความในทันทีเพราะยังเหนื่อยอยู่
**
แดดฤดูหนาวจัดจ้าน ระยะทางเดินจากบ้านของเธอถึงบ้านตาพุดต้นซอย ไป-กลับประมาณครึ่งกิโลเมตร ถนนดินขรุขระในหน้าแล้ง และเป็นโคลนในหน้าฝน วันดาอดนึกถึงวันคืนเก่าๆ สมัยมาลงหลักปักฐานในละแวกนี้ใหม่ๆ ไม่ได้ เพราะไม่น่าเชื่อว่าหนทางฝุ่นฟุ้งนั่น แต่ก่อนมันคือคลองเล็กๆ… การถมคลองเกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน ขณะที่ผู้เนรมิตให้น้ำกลายเป็นดินยังไม่ทันมาลงมือทำอะไรเพราะเศรษฐกิจตกสะเก็ด ชุมชนแออัดก็เกิดขึ้นก่อนอย่างรวดเร็ว ผู้คนมีมาจากหลายจังหวัด มีกระทั่งคนต่างชาติ ทั้งพม่า ลาว เขมร และบังกลาเทศ บ้านพักปุปะมีเสาทีวีโดดเด่น รถจักรยานยนต์มีกันแทบทุกหลังคา และที่ขาดไม่ได้คือวงสุราบนพื้นดินหน้าบ้าน (ทางเดิน) มีให้เห็นทั้งกลางวันและกลางคืน
**
และหนึ่งในวงสุราได้รับปากกับวันดาไว้ว่าจะมาตัดกิ่งมะกอกออกสัก 1 ใน 3 แต่พอถึงเวลานัด ตาพุดก็มีอันล้มเลิกไปโดยปริยายเพราะน้ำเงินและน้ำพักน้ำแรงของแกถูกรีดลงขวดไปหมดแล้วตั้งแต่เช้า
**
แม้ใจจะค่อนพะวงเรื่องกิ่งมะกอกใหญ่ที่เมื่อเดือนก่อนหักลงมาหลายกิ่ง ในบรรดาไม้ยืนต้นที่เธอปลูกพวกมันด้วยสองมือด้วยความภาคภูมิใจนั้น มาบัดนี้ต้องยอมรับว่าเกินกำลังของตนที่จะจัดการให้ความสูงใหญ่ของต้นไม้อยู่ในระดับพอดีได้ และเพราะตนมิได้อยู่ลำพัง หากแต่ยังมีเพื่อนบ้านใกล้ชิดที่อาจเดือดร้อนย้อนไม้ใหญ่ของเธอ
**
ขณะมือจับหนังสือ ใจขุ่นคิดถึงตาพุด แต่ตาไม่วายมองใต้โต๊ะโดยอัตโนมัติ
**
2-3 อาทิตย์มาแล้วที่คางคก 2 ตัวรุกล้ำอาณาเขตเข้ามา พวกมันใช้ชีวิตเสรีอยู่ตามซอกตู้ ใต้โต๊ะ โดยไม่มีทีท่าว่าจะอพยพไปที่อื่น และมาถึงวันนี้วันดาตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว
**
เมื่อเป็นอันรู้แน่แก่ใจ ว่ายังทำอะไรเกี่ยวกับต้นไม้ไม่ได้ นิยายในมือจึงเปิดขึ้นท่ามกลางสงครามระหว่างกองทัพแห่งกรุงราชภุช ที่ยกเข้าตีกรุงเทวะปุระ ในการสู้รบไพร่พลย่อมล้มตายกันทั้งสองฝ่าย และเทวะปุระเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำแก่ศัตรูผู้รุกราน
*****