นิทานการเมือง เรื่องเด็กที่เคยคิดว่าเป็นผู้ใหญ่มันดีกว่า

รางวัลชนะเลิศ โครงการ “เขียนใหม่นายผี” รายการที่ 1

ประเภทผู้ที่มีอายุยังไม่ถึงเกณฑ์ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

โดย จิรัชญา เกศสุระพันธ์

 

มีบุคคลเคยกล่าวว่ามนุษย์ใช้การเรียนรู้มากกว่าสัญชาตญาณในการเอาชีวิตรอด สัญชาตญาณเป็นเรื่องของสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ สัญชาตญาณเป็นเรื่องของสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำแน่ละหรือ ใครเล่ายกย่องว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูง ไม่ใช่มนุษย์เองหรอกหรือ ถ้าสัตว์มันพูดได้ ถ้ามันมีสิทธิร้องเรียกความเป็นธรรมให้เกิดแก่หมู่มันได้ มนุษย์จะต้านทานกระแสความเปลี่ยนแปลง จะยอมถูกตีตราว่าเป็นฝ่ายด้อยกว่าหรือไม่

ความต้องการการยอมรับว่าเป็นส่วนหนึ่งของสังคมมันเกิดมีได้อย่างไร ฉันก็ไม่อาจล่วงรู้ได้ ทว่ามันเป็นไปของมันเอง ไม่ว่าผู้ใหญ่ ไม่ว่าเด็ก ไม่ว่าคนหัวดำ ไม่ว่าคนหัวหงอก ไม่ว่าคนผิวขาว ไม่ว่าคนผิวสี ไม่ว่าคนรวยล้นฟ้า ไม่ว่าคนไร้สะตุ้งสตางค์ต่างต้องการมีพื้นที่ยืนในสังคมที่ตัวเองกำลังอาศัยอยู่ ความต้องการนามาซึ่งพฤติกรรมการแสดงออก เหตุที่เหมือนอาจส่งผลที่แตกต่าง หากว่าความต้องการเช่นนี้ทำให้มนุษย์เรากระตือรือร้นในการพัฒนาปรับปรุง ในการเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบขึ้นกว่าเก่าเพื่อให้สังคมยอมรับการมีอยู่ของเขาก็ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีของสังคมนั้นเพราะมันจะทำให้สังคมนั้นมีบุคลากรที่มีคุณภาพพร้อมที่จะขับเคลื่อนสังคมให้ดียิ่งขึ้นไปกว่าเดิม แต่หากความต้องการเช่นนี้ทำให้มนุษย์พยายามกดเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเองให้รู้สึกต่ำต้อยด้อยค่ากว่าตน ทำให้ที่ยืนของเขาลดน้อยลงเรื่อยๆ เพื่อเสริมเติมที่ยืนของตนเองให้กินอาณาบริเวณมากขึ้น ทำให้ตำแหน่งแห่งที่ที่ตนดำรงอยู่มั่นคงแข็งแรงในสายตาของตนมากขึ้น หากเป็นเช่นนี้มากขึ้นเรื่อยๆ คงทำให้สังคมทั้งสังคมมี แต่สงครามการห้ำหั่นกันเพื่อแก่งแย่งพื้นที่การมีตัวตนของตัวเอง ไม่เหลือความหวังดีหรือไมตรีจิตใดๆ ที่มนุษย์พร้อมจะมอบให้แก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกันเองอีกต่อไป

ฉันเองอยู่ในวัยที่เขาเรียกกันว่าวัยรุ่น วัยที่ผู้ใหญ่บางคนบอกฉันว่าฉันยังเป็นเด็ก ยังอ่อนด้อยประสบการณ์ชีวิตอยู่มาก ในขณะที่ผู้ใหญ่บางคนบอกฉันว่าฉันโตแล้ว ต้องรู้จักรับผิดชอบตัวเองให้เป็น

จะผู้ใหญ่หรือเด็กก็เป็นมนุษย์ เขาย่อมต้องการเป็นส่วนหนึ่งของสังคมและได้รับการยอมรับจาก สังคมที่เขาอาศัยอยู่เช่นกัน ฉันเองอยู่ในวัยที่เขาเรียกกันว่าวัยรุ่น วัยที่ผู้ใหญ่บางคนบอกฉันว่าฉันยังเป็นเด็ก ยังอ่อนด้อยประสบการณ์ชีวิตอยู่มาก ในขณะที่ผู้ใหญ่บางคนบอกฉันว่าฉันโตแล้ว ต้องรู้จักรับผิดชอบตัวเองให้เป็น ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยตัวเองให้ได้ ฉันอยู่บนโลกนี้มาสิบแปดปี ตอนอายุยังน้อยฉันไม่ได้มีเป้าหมายชีวิตที่ยิ่งใหญ่อะไร ใช้ชีวิตไปตามประสาเด็ก มีความฝันผุดขึ้นมาไม่เว้นแต่ละวันแต่ส่วนใหญ่มักไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ ถามว่าเพราะเหตุใด คงเป็นความกลัวการถูกระงับความฝันผ่านคำพูดคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อน คงเป็นความกลัวการถูกดูแคลนความฝันจึงทำให้ฉันเลือกความฝันที่เป็นที่ยอมรับเปิดเผยต่อสาธารณะเสียมากกว่า ตอนเด็กฉันมักนึกอิจฉาผู้ใหญ่ที่เพียงบอกใครต่อใครว่าอาบน้ำร้อนมาก่อนก็สามารถปิดปากผู้ฟังได้สนิท สามารถทำให้ทุกคนเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ สามารถพูดจาไม่ดีโดยไม่ต้องใส่ใจความรู้สึกของเด็กได้เพราะเด็กก็คือเด็ก ยังไม่รู้ประสาอะไร สามารถสั่งลงโทษแบบไม่มีเหตุผลกับเด็กโดยไม่มีเด็กคนไหนกล้าทวงถามหาเหตุผล ทวงถามหาความยุติธรรม ผู้ใหญ่มีพื้นที่ในสังคมกว้างขวางกว่าเด็กอย่างฉันหลายเท่า มีผู้คนให้ความเคารพนับถือมากกว่าเด็กอย่างฉัน ฉันคิดเอาเองแบบเด็กๆ ว่าถ้าฉันเป็นผู้ใหญ่เมื่อไร ฉันจะใช้พื้นที่ในสังคมที่ฉันมีให้คุ้มค่า ฉันจะมีที่ยืนที่ดีกว่านี้ในสังคม

เมื่อฉันใช้เวลาบนโลกใบนี้มากขึ้น ฉันกลับกลัวการพรากจากวัยเยาว์ของตัวเอง เมื่อฉันอยู่ในช่วงวัยรุ่น ฉันกลับกลัวการเป็นผู้ใหญ่ ฉันเคยคิดว่าเป็นผู้ใหญ่มันดีกว่า แต่ฉันชักเริ่มไม่มั่นใจในความคิดนั้น ถึงเราจะโตแค่ไหนย่อมต้องมีคนที่เป็นผู้ใหญ่กว่าเราอยู่ดี

ฉันเติบโตขึ้นทุกวัน เติบโตทางร่างกาย เติบโตทางจิตใจ เติบโตทางความคิด ทัศนคติที่เคยมี ผุกร่อน สูญสลาย แปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ประสบการณ์สอนฉันว่าโลกนี้ไม่ได้มีแค่ขาวกับดำ ทุกอย่างไม่ได้มีแต่ด้านดีหรือแย่ไปทั้งหมด เมื่อฉันใช้เวลาบนโลกใบนี้มากขึ้น ฉันกลับกลัวการพรากจากวัยเยาว์ของตัวเอง เมื่อฉันอยู่ในช่วงวัยรุ่น ฉันกลับกลัวการเป็นผู้ใหญ่ ฉันเคยคิดว่าเป็นผู้ใหญ่มันดีกว่า แต่ฉันชักเริ่มไม่มั่นใจในความคิดนั้น ถึงเราจะโตแค่ไหนย่อมต้องมีคนที่เป็นผู้ใหญ่กว่าเราอยู่ดี แรงกดดันจากสังคมที่คอยบีบคั้นถามหาความเป็นผู้ใหญ่จากตัวฉันนับวันจะมีมากขึ้นทุกที ฉันเริ่มไม่แน่ใจว่าเป็นผู้ใหญ่มันดีกว่าจริงไหม แท้จริงแล้วคำว่าดีกว่ามันมีอยู่จริงหรือ ในเมื่อมนุษย์ทุกผู้ทุกนามมีความแตกต่างกันย่อมต้องมีคนที่รู้สึกว่าตนดีกว่าหรือรู้สึกว่าตนด้อยกว่าเป็นธรรมดา ใครเป็นคนกำหนดพื้นที่ยืนในสังคมที่ฉันมุ่งมาดปรารถนา การได้รับการยอมรับเป็นทุกสิ่งของชีวิตแน่หรือ เหตุใดผู้คนจึงไม่หยุดวงจรความทรมานในการแก่งแย่ง ชิงดีกันเพียงเพื่อพิสูจน์ว่าฉันนี่แหละดีกว่าคนอื่น ฉันคงต้องใช้เวลาบนโลกอีกมากเพื่อใคร่ครวญถึงเรื่องดังกล่าว  

 

จิรัชญา เกศสุระพันธ์ คือชื่อที่พ่อแม่คิดให้ อายุสิบแปดแต่เกิดเดือนมิถุนาเลยยังไม่ได้เลือกตั้งและหวังว่าจะได้ใช้สิทธิของตัวเองอย่างเต็มที่ในอนาคต ชอบอ่าน ชอบคิด ชอบขีด ชอบเขียนบนพื้นที่ต่างๆ ที่ได้รับอนุญาต