นิทานการเมือง เรื่อง “วิหคเพลิง”

ผลงานผ่านการพิจารณาให้เผยแพร่ โครงการ “เขียนใหม่นายผี” รายการที่ 3

ประเภทนิทานการเมือง หัวข้อ “การปฏิวัติที่ห่าม 2019 edition”

โดย สายธาร

เขาจำไม่ได้ว่าเลิกเชื่อเรื่องเพ้อฝันอย่างการปฏิวัติมานานขนาดไหน และเขาจำไม่ได้ว่าเคยศรัทธาถึงมันหรือไม่ ทั้งเขาจำไม่ได้อีกว่าเขาอยู่กับมรดกจากการปฏิวัติเมื่อปี 2475 มานานแค่ไหน แต่เพราะว่าเขาอยู่มานาน น่าจะนานกว่าชีวิตของใครหลายๆ คน เขาจึงได้เห็นสิ่งที่คนอื่นไม่เคยจะเห็น และในวันนี้เขาก็ได้เห็นนกที่เรียกกันว่าการปฏิวัติ 2475 ในมุมใหม่ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

น่าจะประมาณห้าสิบกว่าปีได้ที่อัคคีเชื่อว่าการปฏิวัติ 2475 เป็นนกกระจอก ที่ทั้งอ่อนแอ และลำพอง มันไม่เคยสร้างอะไรใหม่ๆ นอกจากขี้เยี่ยวให้เป็นทั้งภาระและปัญหาที่สร้างความรำคาญใจมาตลอด กระทั่งกระสุนปืนนัดนั้นยิงมันตาย จนมันร่วงหล่นกลายเป็นซากและแห้งติดถนน แล้วไม่มีใครสนใจมันอีกเลย กระทั่งในคืนนั้น คืนที่เกิดการรัฐประหารที่ซากนกได้คืนชีพ

คืนวันที่ 19 กันยายน 2549 นั้นคือคืนที่ทุกสิ่งเปลี่ยนไป เมืองไทยได้เข้าสู่ทศวรรษที่สูญหายจากวิกฤตการเมืองที่ดูจะไม่ยุติเสียที แม้ว่าความจริงวิกฤตนั้นอาจไม่ได้เกิดในวันที่ 19 กันยา บางคนอาจคิดว่าวิกฤตนั้นเกิดขึ้นมาก่อนหน้านั้นแล้ว บางคนก็บอกว่าวิกฤตการเมืองครั้งนี้เกิดจากการที่นายกรัฐมนตรีหน้าเหลี่ยมไม่ยอมให้เพื่อนยืมตังค์ แต่ความจริงจะเป็นเช่นไรไม่สำคัญกว่าเรื่องที่การจดจำว่าวันที่ 19 กันยา 2549 เป็นจุดเริ่มต้นของวิกฤตการเมืองนั้นง่ายต่อการจดจำมากกว่าไปจำวันอื่น

เช่นเดียวกับคนส่วนใหญ่อัคคีเลือกจะจำวิกฤตการเมืองครั้งนี้ว่าเกิด ณ วันที่ 19 กันยายน 2549 แล้วเขาเลือกจะจดจำเหตุการณ์นองเลือดทางการเมือง และการรัฐประหารนั้นเป็นเช่นไร พร้อมจดจำมันจนขึ้นใจทุกเรื่องราว ทุกรายละเอียดราวกับว่าทั้งชีวิตเขาเกิดมาเพียงเพื่อการนี้  เขาอยู่มานานและนั้นทำให้เขาอยู่ในทุกเหตุการณ์ทั้งในวันที่รัฐประหาร วันที่เกิดการชุมนุม วันที่กระสุนถูกยิงออกจากรังเพลิง และก็วันที่รัฐประหารอีกครั้งในปี 2557 ทั้งหมดเขาจำมันในฐานะเรื่องๆ เดียวที่ดำเนินเรื่องยาวนานกว่าสิบปี

ในวันที่เกิดการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 แม้ว่าเวลา และสถานที่ของการเกิดรัฐประหารจะต่าง แต่วิธีการ เกือบทุกอย่างช่างซํ้าซากกับการรัฐประหารครั้งที่ผ่านๆ มา จนหลายครั้งอัคคีก็อดสงสัยไม่ได้ว่าคนเรานี้ไม่รู้จักจำหรืออย่างไร ราวกับนี้ป็นวงจรของอะไรสักอย่างที่มิอาจเลี่ยงได้

ถ้าเป็นเมื่อประมาณยี่สิบปีก่อน อัคคีก็คงบอกได้เต็มปากว่าการเมืองไทยเป็นวงจรอุบาทว์ ซํ้าซาก วกวน จนแม้แต่คนที่ด่ามันว่าเป็นวงจรอุบาทว์นั้นก็เผลอทำตามวงจรอุบาทว์นั้นด้วย เรียกว่าวงจรอุบาทว์นั้นอุบาทว์ตั้งแต่คนที่วิจารณ์มันว่าอุบาทว์ก็ว่าได้ แต่มาวันนี้อัคคีกลับเห็นสิ่งที่ต่างออกไป

การครบรอบของวงจรอุบาทว์นั้นไม่ใช่การวนซํ้าธรรมดา เพราะมันสะสมพลังมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ครบรอบ มันจะเกิดสิ่งใหม่ขึ้น เหมือนกฎแห่งกรรม ที่เราเวียนว่ายในสังสารวัฏโดยแบกกรรมเก่าติดตัวไป แต่ทุกครั้งที่เราเวียนว่ายตายเกิด กรรมใหม่ก็จะติดตัวเรา เช่นเดียวกับกรรมเก่าที่หลุดลอยไปตามกระแสธารแห่งชีวิต การรัฐประหารเพื่อทำให้ครบรอบวงจรก็เช่นกัน ไม่เคยมีการรัฐประหารครั้งไหนที่เหมือนกัน ทุกครั้งมันได้สะสมบางอย่าง และละทิ้งบางอย่างเสมอ

หลังจากการรัฐประหาร 2549 เป็นต้นมาอัคคีได้เห็นสิ่งที่ไม่คิดจะเห็น และนกที่ชื่อ 2475 ก็เป็นหนึ่งในนั้น คืนวันที่เกิดการรัฐประหารเขาเชื่อว่าเขาเห็นซากที่แห้งกรังติดถนน ซึ่งมีแต่คนถ่มน้ำลาย และสเลด เริ่มกลับมามีชีวิต ตอนแรกเขาเห็นเป็นกระดูกโผล่มาจากตรงที่มันเป็นซาก โดยโผล่แค่ปีกในคราวแรก และไม่กี่วันเขาก็เห็นมันโผล่มาทั้งตัว จนกลายเป็นนกผีที่มีแต่กระดูก แต่ไม่นานหลังจากที่สารเคมีแสบผิวถูกยิงออกไปในสองปีต่อมา ขนของมันก็เริ่มงอก และหลังจากเสียงปืนดังลั่นกลางเมืองมันก็กลับมามีชีวิตอีกครั้ง พร้อมโบกสะบักปีกอีกครั้ง ทว่าคราวนี้เขากลับเห็นมันเป็นอีกอย่าง เจ้านกนี้ไม่ใช่นกกระจอก แต่เป็นอินทรี แล้วเมื่อเกิดการชุมนุมในครั้งต่อไปเขาก็เห็นรูปลักษณ์ของมันเปลี่ยนไปอีก แต่นั้นไม่สำคัญเท่ากับปัจจุบันที่เขาเห็น นกตัวนั้นกลายเป็นวิหคเพลิง และ ณ เวลานี้เขากำลังมองมันบินบนท้องฟ้า

การกลายร่างของการปฏิวัตินี้อัคคีไม่ได้เพิ่งเคยเจอ เขาเคยเจอมันมาก่อนแล้ว ก่อนที่เขาจะเห็น 2475 เป็นนกกระจอก เขาเคยเห็นมันเป็นนกพิราบมาก่อน และไม่นานก็เห็นมันเป็นไก่ แล้วจึงเห็นมันเป็นนกกระจอกอยู่นานหลายปี ทว่าตอนนั้นเขาก็ยังไม่เชื่อว่ามันเปลี่ยนรูปลักษณ์จริงๆ เขาแค่คิดว่าเขามองมันผิดไป จึงเห็นมันเป็นนกพิราบ ทั้งๆ ที่จริงๆ เป็นนกกระจอก แต่ดูแล้วแม้ว่าจะใช้อยู่มายาวนานเพียงใด เขาก็ยังมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้อีกมาก

เมื่อนานมาแล้วอัคคีเคยเชื่อว่านกกระจอกไม่สามารถกลายเป็นอินทรีได้ และเขาก็เชื่อว่าวงจรอุบาทว์นั้นเหมือนๆ เดิมทุกครั้ง เช่นกันเขาเมื่อก่อนเขาก็เชื่อว่าการปฏิวัติ 2475 นั้นชั่วร้าย แต่กลับกันในวันนี้ไม่ใช่ แน่นอนการปฏิวัติ 2475 นั้นมิได้สวยหรู แต่มันก็ไม่ได้ชั่วร้ายอย่างที่เขาจำ หากอารยธรรมจีนมีตำนานว่าด้วยปลาคาร์ฟที่พยายามว่ายทวนนํ้าจนเป็นมังกรแล้ว การที่นกกระจอกจะกลายเป็นวิหคเพลิงก็คงเป็นไปได้ไม่ต่างกัน

และแล้วบัดนี้วิหคเพลิงได้สยายปีกอีกครั้ง คราวนี้กระสุนมิอาจทำอันตรายมันได้ มันไม่มีวันกลายเป็นซากแห้งติดถนนอีกแล้ว เพราะการตายของมันคือการเกิดขึ้นใหม่ เพลิงของมันนั้นเร่าร้อนพอจะละลายกระทั่งเหล็กกล้า และปลุกให้นกตัวอื่นๆ ตื่นจากการหลับ เหล่านกนั้นมีทางเลือกอยู่ว่าจะตื่นแล้วบินตามวิหคเพลิงไป หรือว่าหลับแล้วปล่อยให้ไฟเผาผลาญมันให้ตายทั้งอย่างนั้น น่าเสียดายที่นกเหล่านั้นมิอาจตื่น มันได้แต่หลับ แล้วก็มอดไหม้ใต้กองเพลิงที่วิหคเพลิงสร้างขึ้น

 

“สายธาร” ชอบเหม่อลอย และหวังว่าสักวันจะหาที่ทางบนโลกที่เล็ก แต่กว้างเกินกว่าจะเข้าใจ