สำนักพิมพ์ อ่าน: เพื่อการอ่าน

เจ้าบ้าน

จดหมายถึงอาจารย์วิทยา

ความซับซ้อนเหลือเกินนั้นมิได้มาจากการขบคิดเพื่อความแหลมคมทางเนื้อหา อาจารย์วิทยาไม่ใช่สายวิพากษ์แบบศิลปินอย่างที่เรียกกันว่าสายก้าวหน้า จุดยืนในทาง ‘วิธีวิทยา’ นั้นมีแค่ว่า “ผมก็คิดไปตามความรู้สึกล้วนๆ”

นพพร ประชากุล ทิ้งรอยโดยทิ้งรอย

นี้กระมังที่เป็นสปิริตในงานทั้งหมดของอาจารย์นพพร และคือตัวตนของความเป็นอาจารย์นพพร ประชากุล นั่นคือ นักอ่านที่หลงใหลในวรรณกรรม ผู้สงสัยในคุณค่าของวรรณกรรม, นักมนุษย์ศาสตร์ผู้เคลือบแคลงในลัทธิมนุษยนิยม, คนเปี่ยมเหตุผล ผู้หวาดระแวงในลัทธิเหตุผลนิยม, คนมากน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ ผู้สูญสิ้นศรัทธาในมนุษยชาติ

วัฒน์ วรรลยางกูร “ศรีบูรพา” แห่งยุคสมัย

สำหรับผม วัฒน์ วรรลยางกูร มิได้เป็นเพียงนักเขียนรางวัลศรีบูรพา แต่เขาคือ “ศรีบูรพา” แห่งยุคสมัยของเรา ในทุกมิติของความเป็นนักเขียนและนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

ไม่กลับ : การลาลับเพื่อคงอยู่ของวัฒน์ วรรลยางกูร

สำหรับข้าพเจ้า “เนรเทศ” ไม่ใช่ลี้ภัยชั่วคราวเพื่อรอวันกลับมา เนร คือ นิร คือไร้ ไม่ใช่กลับไม่ได้ แต่ไม่ขอหันหลังกลับมาอีกแล้ว

หนึ่งความฝันถึงสยามประเทศของเตียง ศิริขันธ์ : จาก “เอมีล” ถึง “เพื่อนครู”

“เอมีล” และ “เพื่อนครู” เป็นหนังสือเกี่ยวกับการศึกษาในยุคแรกประชาธิปไตยของไทย ทั้งสองเล่มมีเสน่ห์ชวนอ่านต่างกันไป

ภาพลักษณ์จิตร ภูมิศักดิ์ ในยุคปัจจุบัน

ภาพลักษณ์ของจิตร ภูมิศักดิ์ ในยุคปัจจุบัน ที่ดิฉันจะพูดถึงต่อไปนี้ จึงจะไม่ใช่ในความหมายของภาพลักษณ์ที่คนในรุ่นปัจจุบันมองจิตร แต่เป็นในความหมายที่เถรตรงกว่านั้น คือเป็นภาพลักษณะที่เห็นอยู่ในปัจจุบันของความเป็นจิตร ภูมิศักดิ์ หรือกล่าวได้ว่า การเกิดใหม่ของจิตร ภูมิศักดิ์, ถ้าจะมี, ในรอบนี้ มันจะไม่ใช่การเกิดแบบที่มาเชิดชูเป็นวีรบุรุษในตำนานเพื่อกลบเกลื่อนความไร้น้ำยาของตัวเอง แต่มันคือการทำให้เกิด จิตร ภูมิศักดิ์ ขึ้นมาเองในตัวของทุกคน ไม่ใช่การทำให้จิตรเป็น living history เท่านั้น หากคือการ living the history ของจิตรในแบบของเรา

ย้อนมองระบบสาธารณสุขไทยผ่านวัณโรคในปี 2493

บทความอายุ 70 ปีชิ้นนี้มีหลายส่วนที่น่าอ่านเปรียบเทียบกับสถานการณ์โรคระบาดและระบบสาธารณสุขในปัจจุบัน และไม่เพียงแค่เนื้อหาเท่านั้นที่น่าสนใจ แต่บทความนี้ยังเป็นหลักฐานอีกชิ้นหนึ่งที่แสดงว่า หลังเปลี่ยนแปลงการปกครองปี 2475 แล้ว ผู้แทนราษฎรในระบอบประชาธิปไตยต่างก็ทำหน้าที่ของตนเองตามความรู้ความสามารถ และเสนอความคิดเห็นต่างๆ เพื่อผลักดันให้สังคมไทยทันสมัยทัดเทียมอารยประเทศ

The intellect(ual) of the masses

บทบรรณาธิการวารสารอ่าน ปีที่ 2 ฉบับที่ 3 (มกราคม-มีนาคม 2553) ฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษโดย อาดาดล อิงคะวณิช เผยแพร่ซ้ำอีกครั้งในวาระครบรอบ 10 ปี เหตุการณ์ 10 เมษา 2553 First published in Thai as an editorial of Aan Issue 2 Vol.3 January-March 2010, translated to English by May Adadol Ingawanij. Reposted on the occasion of the 10th anniversary of the 10th April 2010 event.

1 2 3 7
© 2018 ติดต่อหรือแลกเปลี่ยนความเห็นที่ [email protected]