My Thoughts After The Batman : Some symptoms of 21th century Dikephobia
Superheroism in entertainment media has next to nothing to teach us about justice.
Superheroism in entertainment media has next to nothing to teach us about justice.
การเล่าเรื่องแนวซุปเปอร์ฮีโร่กู้โลกในสื่อบันเทิงมันสอนอะไรเราเกี่ยวกับความยุติธรรมไม่ได้เลย!
สืบเนื่องจากสภาพการถกเถียงกันบนโซเชี่ยวมีเดี่ยเรื่องซีรี่ย์เน็ทฟลิกซ์ มิดไน้ท์ แมส ของนายไมค์ ฟลานากัน ที่เพิ่งออกมาปีนี้ ข้าพจ้าวเห็นควรชี้แจงให้กระจ่างแจ่มว่าอากิวเม้นที่แทบจะไม่เป็นอากิวเม้นในบทความนี้มีพื้นฐานอยู่บนข้อกังวลทางทฤษฎีสองประการ
In light of the direction of the thai social media discourse on Mike Flanagan’s 2021 Netflix limited series Midnight Mass, I should clarify that the argument presented in this article, such as it is, has its basis in two theoretical concerns.
“ขึ้นชื่อว่าศาลก็น่ากลัวทั้งนั้นแหละ” เอ๊ะ ฉันพูดทำไมเนี่ย คนละประเด็นเลย
I was almost convinced that tonight’s gathering in front of Thai Summit Tower, on 21st February after a declaration of Future Forward Party’s dissolution, meant something to us or produced even the slightest degree of encouragement until Tao, after having taken a long pause for a while, softly inquired out of the blue, “Do you feel quite depressed?” that I realized how, for five minutes, we had constructed ourselves a necessary short drama performance of such a spirited and triumphant activism to comfort our own mind and each other. “What are we doing here, huh?”
และในห้านาทีถัดมา ฉันก็เกือบจะคล้อยตามไปแล้วว่าการมารวมตัวกันของมวลชนในค่ำคืนของวันที่ 21 กุมภาพันธ์วันนี้ที่หน้าตึกไทยซัมมิทหลังการประกาศยุบพรรคอนาคตใหม่ จะมีความหมายบางอย่างสำหรับเราหรือจุดประกายแม้เพียงเศษเสี้ยวความหวัง จนกระทั่งจู่ๆเต๋าก็โพล่งขึ้นมาเบาๆหลังจากนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ “มึงรู้สึกหดหู่หน่อยๆไหม?” ตอนนั้นเองฉันจึงได้รู้สึกตัวขึ้นมาว่ามันคือชั่วเวลาห้านาทีเท่านั้นหรอกที่เราต่างดันทุรังสวมบทบาทในละครจำเป็นฉากสั้นๆที่ว่าด้วยการต่อสู้ทางการเมืองที่เปี่ยมความหวังและชัยชนะเพื่อปลอบใจตัวเองและปลอบประโลมกันและกัน “เรามาทำอะไรกันที่นี่วะมึง?”
ไม่ว่าท่านผู้อ่านจะมีความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพเวทีการต่อสู้ในไทย ว่าตอนนี้มันต้องใช้ข้อเท็จจริง ต้องเน้นใช้กฎหมายและรัฐธรรมนูญเอาชนะพวกมันให้ได้อย่างเดียวนะ หรืออย่างไรก็ตาม ก็คงปฏิเสธความสำคัญของการต่อสู้ทางสัญลักษณ์ไม่ได้ เพราะอำนาจรัฐไทยผูกขาดสัญลักษณ์ความคลั่งชาติไว้หมดจนสลิ่มชนเสพความใคร่ส่วนตัวอิ่มเอมขึ้นอืดหรือพวกมนุษย์ที่ไม่กล้าโงหัวยอมแพ้ไปตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มสู้แล้ว
HPL’s actual contribution thus also highlights his weakness as a critical thinker. To wit, he pointed out where reality ends and the real begins but himself never thought to upset that boundary.
เลิฟคราฟท์บรรยายเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกเหล่านี้ของทั่นผู้ดีเก่าให้เหมือนเป็นแค่ตัวประกอบฉากเท่านั้น บรรยายมวลมนุษย์ที่ควรจะมีความคิดเป็นของตัวเองให้กลายเป็นมนุษย์ชั้นต่ำผ่านการวางตัวเรียบร้อยระเบียบหมู่ในพิธีบรมราชาภิเษก นี่แหละคือโฉมหน้าที่แท้จริงของคำว่าแฟนตาซี