วัฒน์ วรรลยางกูร “ศรีบูรพา” แห่งยุคสมัย
สำหรับผม วัฒน์ วรรลยางกูร มิได้เป็นเพียงนักเขียนรางวัลศรีบูรพา แต่เขาคือ “ศรีบูรพา” แห่งยุคสมัยของเรา ในทุกมิติของความเป็นนักเขียนและนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
สำหรับผม วัฒน์ วรรลยางกูร มิได้เป็นเพียงนักเขียนรางวัลศรีบูรพา แต่เขาคือ “ศรีบูรพา” แห่งยุคสมัยของเรา ในทุกมิติของความเป็นนักเขียนและนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
สำหรับข้าพเจ้า “เนรเทศ” ไม่ใช่ลี้ภัยชั่วคราวเพื่อรอวันกลับมา เนร คือ นิร คือไร้ ไม่ใช่กลับไม่ได้ แต่ไม่ขอหันหลังกลับมาอีกแล้ว
“เป็นเหตุเพราะโรคห่า” คือชื่อเรื่องสั้นเขียนโดย “หง เกล […]
“เอมีล” และ “เพื่อนครู” เป็นหนังสือเกี่ยวกับการศึกษาในยุคแรกประชาธิปไตยของไทย ทั้งสองเล่มมีเสน่ห์ชวนอ่านต่างกันไป
สืบเนื่องจากสภาพการถกเถียงกันบนโซเชี่ยวมีเดี่ยเรื่องซีรี่ย์เน็ทฟลิกซ์ มิดไน้ท์ แมส ของนายไมค์ ฟลานากัน ที่เพิ่งออกมาปีนี้ ข้าพจ้าวเห็นควรชี้แจงให้กระจ่างแจ่มว่าอากิวเม้นที่แทบจะไม่เป็นอากิวเม้นในบทความนี้มีพื้นฐานอยู่บนข้อกังวลทางทฤษฎีสองประการ
In light of the direction of the thai social media discourse on Mike Flanagan’s 2021 Netflix limited series Midnight Mass, I should clarify that the argument presented in this article, such as it is, has its basis in two theoretical concerns.
“ขึ้นชื่อว่าศาลก็น่ากลัวทั้งนั้นแหละ” เอ๊ะ ฉันพูดทำไมเนี่ย คนละประเด็นเลย
ภาพลักษณ์ของจิตร ภูมิศักดิ์ ในยุคปัจจุบัน ที่ดิฉันจะพูดถึงต่อไปนี้ จึงจะไม่ใช่ในความหมายของภาพลักษณ์ที่คนในรุ่นปัจจุบันมองจิตร แต่เป็นในความหมายที่เถรตรงกว่านั้น คือเป็นภาพลักษณะที่เห็นอยู่ในปัจจุบันของความเป็นจิตร ภูมิศักดิ์ หรือกล่าวได้ว่า การเกิดใหม่ของจิตร ภูมิศักดิ์, ถ้าจะมี, ในรอบนี้ มันจะไม่ใช่การเกิดแบบที่มาเชิดชูเป็นวีรบุรุษในตำนานเพื่อกลบเกลื่อนความไร้น้ำยาของตัวเอง แต่มันคือการทำให้เกิด จิตร ภูมิศักดิ์ ขึ้นมาเองในตัวของทุกคน ไม่ใช่การทำให้จิตรเป็น living history เท่านั้น หากคือการ living the history ของจิตรในแบบของเรา
I was almost convinced that tonight’s gathering in front of Thai Summit Tower, on 21st February after a declaration of Future Forward Party’s dissolution, meant something to us or produced even the slightest degree of encouragement until Tao, after having taken a long pause for a while, softly inquired out of the blue, “Do you feel quite depressed?” that I realized how, for five minutes, we had constructed ourselves a necessary short drama performance of such a spirited and triumphant activism to comfort our own mind and each other. “What are we doing here, huh?”
และในห้านาทีถัดมา ฉันก็เกือบจะคล้อยตามไปแล้วว่าการมารวมตัวกันของมวลชนในค่ำคืนของวันที่ 21 กุมภาพันธ์วันนี้ที่หน้าตึกไทยซัมมิทหลังการประกาศยุบพรรคอนาคตใหม่ จะมีความหมายบางอย่างสำหรับเราหรือจุดประกายแม้เพียงเศษเสี้ยวความหวัง จนกระทั่งจู่ๆเต๋าก็โพล่งขึ้นมาเบาๆหลังจากนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ “มึงรู้สึกหดหู่หน่อยๆไหม?” ตอนนั้นเองฉันจึงได้รู้สึกตัวขึ้นมาว่ามันคือชั่วเวลาห้านาทีเท่านั้นหรอกที่เราต่างดันทุรังสวมบทบาทในละครจำเป็นฉากสั้นๆที่ว่าด้วยการต่อสู้ทางการเมืองที่เปี่ยมความหวังและชัยชนะเพื่อปลอบใจตัวเองและปลอบประโลมกันและกัน “เรามาทำอะไรกันที่นี่วะมึง?”